สภ.บ้านเสด็จ จว.ลำปาง ตำรวจภูธรภาค 5 ขอเชิญประชาชนติดตามรายงานสภาพจราจรในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 5
โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ชวลิต จินดารัตน์ ผกก.สภ.บ้านเสด็จ/พ.ต.ท.พงษ์ศิลป์ ธนะภาษี รอง ผกก.ป.ฯ มอบหมายให้ พ.ต.ท.โสกิจ วรวงศ์ สวป.ฯ(ชส.) พร้อมด้วย ชป.ชส. รณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ,ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ และวัคซีนจราจร 10 ข้อ เพื่อป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ด้วยความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชน เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างปลอดภัย
4 รูปแบบอาชญากรรมออนไลน์ที่ต้องจับตามองในปี 2567 เมื่อ AI ถูกใช้ในด้านมืด ปลอมได้สารพัด
4 รูปแบบอาชญากรรมออนไลน์ที่ต้องจับตามองในปี 2567 เมื่อ AI ถูกใช้ในด้านมืด ปลอมได้สารพัด เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมาพบว่ารูปแบบคดีที่มีจำนวนการแจ้งความมากที่สุด อันดับ 1 – การหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์” มีจำนวนกว่า 150,000 คดี ส่วนรูปแบบคดีที่มีความเสียหายรวมสูงที่สุด อันดับ 1 คือ “หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์” มีความเสียหายรวมกว่า 16,000 ล้านบาท สำหรับคดีในรูปแบบอื่น ๆ อาทิ “การหลอกให้โอนเงิน” “การหลอกให้กู้เงิน” และ “การข่มขู่ทางโทรศัพท์” ก็ยังคงรูปแบบคดีที่มีผู้เสียหายและสร้างความเสียหายในอันดับต้น ๆ เช่นเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังในการใช้สื่อออนไลน์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท เพราะคนร้ายจะพยายามใช้ทุกช่องทางในการเข้าถึงเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการส่ง SMS การโทรศัพท์หาเหยื่อ การลงโฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์ หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ และในหลายกรณีพบว่าคนร้ายมีข้อมูลส่วนบุคคลเชิงลึกของเหยื่อใช้ประกอบการหลอกลวงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วย ส่วนแนวโน้มรูปแบบของอาชญากรรมออนไลน์ในปี พ.ศ. 2567 ที่จะมาถึงนี้ สิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องระมัดระวังนอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือการที่คนร้ายนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) มาใช้ในการสร้างเนื้อหาปลอมขึ้นมาเพื่อใช้ในการฉ้อโกง หรือสร้างความเสียหาย โดยการนำ AI มาใช้สร้างภาพหรือคลิปปลอม เพื่อนำมาแสวงหาประโยชน์ต่าง ๆ เช่น 1.การสร้างภาพหรือคลิปปลอมเป็นบุคคลอื่น (AI Deepfakes) เพื่อใช้ในการฉ้อโกง 2.การสร้างคลิปลามกปลอม (AI Deepfakes) ทำให้บุคคลอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือแสวงหาประโยชน์ 3.การเลียนเสียงของบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือคนรู้จัก (AI Voice Covers) จากตัวอย่างเสียง เพื่อใช้ในการฉ้อโกง 4. การสร้างข่าวปลอม (Fake News) ที่ดูน่าเชื่อถือ ทำให้เกิดความตื่นตระหนก หรือความเข้าใจผิด สำหรับวิธีการที่จะป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อคือการอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นหรือได้ยินในโลกออนไลน์ โดยยึดหลัก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติแนะนำเทคนิคการดูเพจเฟซบุ๊กปลอม หลอกขายของออนไลน์ สร้างยอดติดตามเกินจริง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติแนะนำเทคนิคการดูเพจเฟซบุ๊กปลอม หลอกขายของออนไลน์ สร้างยอดติดตามเกินจริง เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งการหลอกลวงรูปแบบหนึ่งที่พบมากที่สุด และมีจำนวนผู้ได้รับความเสียหายมากที่สุด ก็คือการหลอกขายของออนไลน์ หรือซื้อของไม่ได้ของ โดยจากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้เสียหายจำนวนกว่า 140,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งบัญชีเฟซบุ๊กปลอมถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่คนร้ายมักจะใช้ในการกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอแนะนำเทคนิคในการตรวจสอบเพจเฟซบุ๊กปลอม หลอกขายของออนไลน์ ที่คนร้ายจะสร้างความน่าเชื่อถือโดยการเลียนแบบเพจที่มีอยู่จริง นำภาพ หรือข้อความของเพจต่าง ๆ มาใช้ และมีการสร้างเลขจำนวนผู้ติดตามปลอมเพื่อหลอกผู้เสียหาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแนะนำเทคนิคในการตรวจสอบว่าเพจใดเป็นเพจที่แท้จริง ดังนี้ 1. การตรวจสอบจำนวนผู้ติดตามที่แท้จริง : หากเป็นเพจจริง มักจะมียอดผู้ติดตาม เป็นจำนวนมาก ส่วนเพจปลอมมักจะมีการเขียนจำนวนผู้ติดตามขึ้นเองให้เท่ากับเพจจริง โดยหากใช้เฟซบุ๊กผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ จะสามารถตรวจสอบจำนวนผู้ติดตามได้บนหน้าเพจ จำนวนผู้ติดตามที่แท้จริงจะต้องเป็นตัวหน้าสีดำเข้มเท่านั้น และอยู่ติดกับชื่อเพจ , หากใช้เฟซบุ๊กผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) บนคอมพิวเตอร์ จะสามารถตรวจสอบจำนวนผู้ติดตามได้บนหน้าเพจ โดยจำนวนผู้ติดตามที่แท้จริงจะอยู่ติดกับชื่อเพจเท่านั้น อย่าเชื่อจำนวนผู้ติดตามที่ปรากฏในหน้าการค้นหา เพราะจะตรวจสอบได้ยากว่าเป็นจำนวนผู้ติดตามจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงคำอธิบายที่คนร้ายเขียนขึ้นเอง 2. การตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของเพจ : ดูจากชื่อของเพจ วันที่สร้างเพจ และ URL ของเพจ โดยหากใช้เฟซบุ๊กผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ จะสามารถตรวจสอบได้โดยการเข้าไปที่หน้าเพจ จากนั้นกดที่สัญลักษณ์ จุดสามจุด “…” ใต้ชื่อเพจ และเมนูดูข้อมูล “เกี่ยวกับ” , หากใช้เฟซบุ๊กผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) บนคอมพิวเตอร์ จะสามารถตรวจสอบ URL ได้ที่ Address Bar ด้านบน ส่วนข้อมูลพื้นฐานอื่น ๆ จะต้องเข้าไปที่ “เกี่ยวกับ>ความโปร่งใสของเพจ>ดูทั้งหมด” 3. การตรวจสอบจาก Blue Badge หรือเครื่องหมายถูกสีน้ำเงิน ที่อยู่ติดกับชื่อของเพจ
“ฉลาดโอน เช็คก่อนเชื่อ คิดก่อนโอน”
สภ.บ้านเสด็จขอประชาสัมพันธ์ ตำรวจสืบนครบาล 8 สร้างเว็ปไซด์เพื่อให้ประชาชนไว้ตรวจสอบก่อนโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลที่ไม่รู้จักครับ “ฉลาดโอน เช็คก่อนเชื่อ คิดก่อนโอน” Return พร้อม mr.check เพื่อช่วยเหลือและเป็นเครื่องมือให้ประชาชนใช้ตรวจสอบข้อมูลก่อนโอนเงิน https://chaladohn.com/
เตือนภัยมิจฉาชีพออนไลน์
เตือนภัยมิจฉาชีพออนไลน์
วันออกพรรษางดจำหน่ายเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ทุกชนิด
วันออกพรรษางดจำหน่ายเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ทุกชนิด
“สวมหมวกกันน็อค 100%”
สภ.บ้านเสด็จขอประชาสัมพันธ์ รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ช่วยกันกดไลค์กดเเชร์ เพื่อควาปลอดภัยของพี่น้องประชาชนครับ “สวมหมวกกันน็อค 100%”